สีและการออกแบบร้านเสื้อผ้าวัยรุ่น
fashion shopวัยรุ่นเป็นวัยที่ชอบความสนุกสนานไม่ชอบความจำเจ เป็นวัยที่อยากรู้อยากลอง ดังนั้นเราจึงมักเห็นร้านเสื้อผ้าของบรรดาวัยโจ๋ เต็มไปด้วยสีสัน คนที่ออกแบบร้านจำพวกนี้จึงต้องมีความเข้าใจในเรื่องสีเป็นอย่างดี เพื่อที่จะหยิบสีมาใช้ให้ดูไม่น่าเกลียด อย่างเช่นตัวอย่างนี้ ที่หยิบสีมาสร้างจุดเด่นให้กับร้าน โดยนำสีแดงซึ่งเป็นสีคนละโทนกับพื้นที่ส่วนใหญ่ของร้าน แล้วดึดเอาสีวรรณะเดียวกันอย่างสีเหลืองมาจัดเข้าคู่ สร้างความเด่นและเรียกขาโจ๋ได้ไม่น้อย
หากจะพูดรวมๆแล้วการตกแต่งร้านเสื้อผ้าวันรุ่นมักจะใช้สีที่สนุกสนาน สดใส อย่าง สีแดง สีชมพู สีส้ม สีเขียว สีฟ้า เป็นต้นแต่สีที่ไม่ค่อยเห็นคือสีเอิร์ทโทน สิ่งที่จะเจอในงานพวกนี้จะเป็นเรื่องของการนำสีมาจัดวางโดยใช้ความขัดแย้ง (เป็นทฤษฎีที่เจอบ่อย) แต่ในร้านที่เป็นแบรนดังๆ ก็จะใช้วิธีที่แยบยนขึ้นด้วยการใช้สีกลางเข้ามาเชื่อมทำให้งานไม่ดูน่าเกลียด อย่าง zen ก็ใช้สีส้มดำ แล้วถ้าเดินไปแถวcentran word ก็จะเห็นดิสเพลย์สีชมพูแปรด..!แต่ทำไมถึงดูดี ก็เพราะเขาเอาสีดำมาใช้คู่กันนั้นเอง
สรุป
สีที่ใช้เกือบทุกสี (โทนสดใส) ไม่ค่อยเจอสีเอิร์ทโทน ทฤษฎีสีการใช้สีแบบแตกต่างกันชนิดตัดกันอย่างแท้จริง (True Contrast) สีตัดกันอย่างแท้จริง (True Contrast) หมายถึงสี 2 สีที่มีความขัดแย้งซึ่งกันและกัน รุนแรง บาดตา ถ้าดูจากวงสีธรรมชาติ จะเป็นสีที่อยู่ในตำแหน่งตรงกันข้ามกัน และมีค่าที่ตัดกันอย่างรุนแรง
สีเหล่านี้ ประกอบด้วย สีเหลือง ตัดกับ สีม่วงสีส้มเหลือง ตัดกับ สีม่วงน้ำเงินสีส้ม ตัดกับ สีน้ำเงิน สีส้มแดง ตัดกับ สีเขียวน้ำเงินสีแดง ตัดกับ สีเขียวสีม่วงแดง ตัดกับ สีเขียวเหลือง
สีตัดกันนี้ อาจเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสีคู่ (Complementary Color) ทั้งนี้เพราะนอกจาก จะมีทิศทางที่เป็นสีคู่ตรงกันข้ามกัน ในวงสีแล้ว ยังมีอิทธิพลซึ่งกันและกัน เช่น ในเงาของสีแต่ละสี จะมีเงา ของสีคู่เจือปนอยู่ทำให้ตรงกันข้ามนี้มาผสม จะทำให้ผลที่ได้เป็นธรรมชาติที่ถูกต้องแท้จริง การใช้สีวิธีนี้ทำให้งานออกแบบนั้นมีความโดดเด่น สะดุดตาน่าสนใจ แต่ควรมีแนวทางการใช้ที่ถูกต้องเพราะสีคู่เหล่านี้ มีค่าของสีที่ตัดกันอย่างรุนแรง
ในตกแต่งร้านเสื้อผ้านั้นย่อมจำเป็นต้องใช้ทฤษฎีสีเข้ามาช่วยไม่ว่าจะเป็นทฤษฎี Simple Harmony , Contrast , Itensity , Discord , Harmony in different tones หรืออะไรก็ตาม
การตกแต่งร้านขายเสื้อผ้านั้นหากขาดเรื่อง lightingไป ก็คงไม่เป็นร้านขายเส้อผ้า ดังนั้น lightingจึงเป็นอีกเรื่องนึงที่มีความสำคัญช่วยให้ร้านนั้นมีชีวิตชีวาขึ้นมาได้
ตามร้านส่วนใหญ่นั้นก็จะใช้ไฟเป้นจำนวนมากในการตกแต่ง แต่ในบ้างร้านต้องการทำให้เกิดบรรยากาศความหรูหราในการตกแต่งก็จะใช้ไฟน้อย และไม่ฉูดฉาดมากไป แต่ถ้าร้านใด อยากแต่งร้านแบบสไตล์ที่มีความสนุกปนอยู่ก็จะใช้ไฟจำนวนมากในการตกแต่งร้าน ทำให้เกิดจุดเด่นอีกแบบหนึ่ง
source: http://homeworkforuddee.multiply.com/